
จุดเริ่มต้นของตำนาน Macintosh
24 มกราคมที่ผ่านมา เป็นวันครบรอบ 25 ปีของคอมพิวเตอร์แมคอินทอชจากแอปเปิ้ลครับ
เป็นจุดเริ่มต้นของตำนานอันยิ่งใหญ่ทั้งสำหรับแอปเปิ้ลเองและ สตีฟ จ็อบส์ ผู้ปลุกปั้นแอปเปิ้ลมาตั้งแต่ยุคแรก
Macintosh เป็นคอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่นำเอาเมาส์มาผสานกับกราฟิก เช่น หน้าต่าง และไอคอน เพื่อให้การควบคุมคอมพิวเตอร์ทำได้สะดวกขึ้น ในราคาที่ผู้บริโภคทั่วไปหาซื้อได้ คือประมาณ 2,495 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 90,000 บาท ซึ่งถือว่าพอรับได้ในยุคนั้น โดยที่ความจริงแล้วก่อนหน้านี้แอปเปิ้ลก็มีออก Apple Lisa มา แต่ราคาคิดเป็นเงินไทยประมาณ 360,000 บาท ก็เลยไม่ค่อยมีใครสนใจเท่าไร — ถ้าจะบอกว่าบรรดากราฟิกอินเทอร์เฟสทั้งหลายที่เราใช้กันบนวินโดวส์และแมคทุกวันนี้มีจุดเริ่มต้นจาก Macintosh ก็ไม่ผิดนักครับ

ต้นแบบของโน้ตบุ๊กในยุคปัจจุบัน
ถัดมาแอปเปิ้ลก็นำเสนอต้นแบบของโน้ตบุ๊กที่เราใช้กันในปัจจุบัน คือ PowerBook 100 และ PowerBook 500 โดยออกแบบให้มีพื้นที่วางพักข้อมือบริเวณด้านหน้าคีย์บอร์ด และถูกใช้เป็นแนวทางการออกแบบโน้ตบุ๊กมาจนถึงทุกวันนี้ แต่หลังจากนั้นแอปเปิ้ลก็เข้าสู่ช่วงตกต่ำ สตีฟ จ็อบส์ โดนกดดันให้ออกจากบริษัท แต่ท้ายสุดก็ได้กลับมากู้วิกฤติให้กับแอปเปิ้ลจนรุ่งเรืองถึงทุกวันนี้
จ็อบส์กลับมาพร้อมไอเดียที่เต็มเปี่ยมครับ ลดจำนวนผลิตภัณฑ์ของแอปเปิ้ลลงจนเหลือไม่กี่อย่าง และเปิดตัว Power Mac G3 ในปี 2540 แต่ที่ฮือฮามากที่สุดก็คือ iMac ในปี 2541 ที่เต็มไปด้วยความสดใสและแปลกใหม่ จับเอาฮาร์ดแวร์แทบทุกอย่างยัดลงไว้ในหน้าจอ CRT และเติมสีสันให้กับตัวเครื่องแบบโปร่งแสง ฉีกแนวคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะทั่วไปในยุคนั้น แถมแอปเปิ้ลยังเป็นคนริเริ่มใช้ยูเอสบีตั้งยุคแรกๆ และก็เป็นเจ้าแรกๆ เช่นเดียวกันที่เลิกใช้ดิสเก็ตต์ไดรฟ์แบบ 1.44 นิ้ว (ยังจำแผ่นดิสก์กันได้มั้ยครับ?)
ถัดมาอีกปีเดียว แอปเปิ้ลก็จับเอาไอเดียแบบเดียวกับ iMac มาทำเป็นโน้ตบุ๊กแบบพกพาภายใต้ชื่อ iBook สีสันสดใสสไตล์โปร่งแสง และยังทำที่จับยึดติดกับตัว iMac มาให้พร้อม แต่ที่โดดเด่นที่สุดของ iBook ก็คือ เรื่องของการรับส่งข้อมูลแบบไร้สายผ่าน AirPort ที่ได้รับเสียงปรบมือต้อนรับจากผู้ใช้อย่างเกรียวกราว ต่อมาในปี 2545 หน้าตาของ iMac ก็ถูกปรับให้ดูทันยุคทันสมัยขึ้นกลายมาเป็น iMac G4 เลิกใช้จอ CRT และหันมาใช้จอแบบ LCD แทน เป็นพีซีแบบออลอินวันยุคแรกที่บาง เล็ก และกะทัดรัด ถือเป็นต้นแบบของ iMac ในยุคนี้ก็ว่าได้

สีสันสไตล์โปร่งแสง แมคกลับมาผงาดอีกครั้ง
จุดเปลี่ยนอีกครั้งของคอมพิวเตอร์แมคก็คือ การหันมาใช้โพรเซสเซอร์จากอินเทล ซึ่งทำให้ชาวแมคได้เปรียบผู้ใช้วินโดวส์ในแง่ที่ว่า สามารถเลือกใช้ระบบปฏิบัติการใดก็ได้ จากนั้นเมื่อต้นปี 2551 สตีฟ จ็อบส์ ก็ได้ถือซองเอกสารสีน้ำตาลเข้ามาในงานแมคเวิร์ลด์ และเผยโฉมโน้ตบุ๊กที่มีขนาดบางที่สุด ณ เวลานั้นอย่าง MacBook Air ที่ใครหลายคนเห็นก็ต้องอยากได้ และถือเป็นครั้งแรกที่มีการตัดเอาไดรฟ์ดีวีดีออกไปจากคอมพิวเตอร์แมค เป็นช่วงเดียวกับที่เน็ตบุ๊กกำลังเริ่มถือกำเนิดด้วยคอนเซ็ปต์ที่ไม่มีไดรฟ์ดีวีดีเช่นเดียวกัน
ความจริงถ้าจะนับ Apple iPhone ให้เป็นสายพันธุ์เดียวกับคอมพิวเตอร์ตระกูลแมคก็ไม่ผิดนักครับ เพราะใช้ระบบปฏิบัติการ Mac OS X ซึ่งทำให้ iPhone เป็นอะไรที่มากกว่าโทรศัพท์มือถือซึ่งดูหนังฟังเพลงและรับสาย/โทรออกได้
ถ้าจะให้เครดิต ก็ต้องยกให้กับ สตีฟ จ็อบส์ ไปเต็มๆ ที่สามารถขับเคลื่อนแอปเปิ้ลมาได้จนถึงทุกวันนี้ ดูจากประวัติที่ผ่านมา ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า แอปเปิ้ลไม่ได้เพียงแค่พัฒนาคอมพิวเตอร์ออกมาขาย แต่ยังเป็นคนริเริ่มและผลักดันตลาดรวมไปถึงผู้บริโภคให้ได้ลองสัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ๆ
แต่ ณ วันนี้ แอปเปิ้ลไม่มี สตีฟ จ็อบส์ แล้วครับ กระแสข่าวลือเรื่องจ็อบส์ป่วยหนักนั้นเป็นความจริงขึ้นมา และได้รับการเปิดเผยเมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายคนมองว่า Apple = Steve Jobs — และเมื่อไม่มี จ็อบส์ .. แอปเปิ้ลจะเป็นอย่างไร

สตีฟ จ็อบส์ ปี 2550

สตีฟ จ็อบส์ ปี 2551
คนจำนวนมากเชื่อว่า มะเร็งกลับมาถามหาจ็อบส์อีกครั้ง หลังจากที่เคยพักรักษาตัวไปแล้วหนึ่งเดือนเมื่อหลายปีก่อน และครั้งนี้น่าจะหนักหนาสาหัสเอาการ เพราะจ็อบส์ลาป่วยยาวถึงกลางปี 2552 ซึ่งแม้จะยังไม่มีการคอนเฟิร์มว่า จ็อบส์เป็นมะเร็งหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ ถ้าเทียบ สตีฟ จ็อบส์ เมื่อปลายปี 2551 กับปี 2550 นั้น ดูแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ผอมลงอย่างเห็นได้ชัด
ประวัติศาสตร์ 25 ปีของแมคและแอปเปิ้ลจะยังคงดำเนินต่อไปได้อย่างสวยหรูเหมือนก่อนหน้านี้หรือไม่ ต้องรอพิสูจน์กันต่อไปครับ
และแม้ผมจะไม่ใช่แฟนแมค ไม่มีเครื่องแมค แต่ก็หวังว่า สตีฟ จ็อบส์ จะหายป่วยโดยเร็ว — เอาใจช่วยครับ
ท้ายสุดเอาวิดีโอพรีเซนเทชันครั้งแรกของ Macintosh มาฝากด้วย

iBook สีสันสดใส ดีไซน์เดียวกับ iMac รุ่นแรกเริ่ม

เริ่มใช้จอแอลซีดีแทนจอแบบซีอาร์ที

บางเฉียบขนาดใส่ซองกระดาษได้สบายๆ
อ้างอิง: ComputerWorld ; ReadWriteWeb
ขอบคุณ สตีฟและแอปเปิ้ลสำหรับแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ครับ
ซึ่งถ้าไม่มีสตีฟแอปเปิ้ลก็คงหลงทางพอสมควรครับ
ชอบ สตีฟมาก พอๆ กับบิลเกต ครับ
เนื่องจากเก่งมาก และทำให้ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ เสมอมา
แต่ นึกสงสาร ผู้ที่คิดค้นอินเตอร์เน็ตขึ้นมาได้ กลับไม่มีคนจำชื่อได้นี่สิครับ
จากการได้ใช้คอมพิวเตอร์ ทำให้ผมได้เปิดบล็อกขึ้นมา ชื่อบล็อกยิ้มได้ yimdai.blogspot.com และยังเล่นอยู่ . . . ปัจจุบันก็ยังชอบ นึกอยากเปลียนไปใช้ Apple เป็นบางครั้งด้วย