ตั้งแต่วันแรกที่ ทรู เปิดให้บริการหนังสือและแมกาซีนอิเล็กทรอนิกส์ ผมก็บอกกับเพื่อนๆ ในวงการเอาไว้แต่แรกเลยว่า “เจ๊งแน่นอน” แต่ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้
ประกาศล่าสุดจากเว็บไซต์ http://ebook.truelife.com ระบุเอาไว้ว่า
“เนื่องด้วย บริษัท ทรู ดิจิตอลเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ผู้ให้บริการ e-Book by True ในประเทศไทย ขอแจ้งให้ผู้ใช้บริการทุกท่านทราบว่า บริษัทฯ จะทำการปิดบริการ e-Book by True ในวันที่ 1 เมษายน 2551 เป็นต้นไป เนื่องจากสัญญาที่ได้ทำกับ Zinio ได้สิ้นสุดลง แต่ทั้งนี้ลูกค้ายังสามารถใช้บริการซื้อนิตยสาร/หนังสือได้ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2551 และใช้บริการ Call Center ได้ถึงวันที่ 30 พฤษภาคม 2551″
เหตุผลที่ให้ไว้ว่าสัญญากับทางผู้ให้บริการซอฟต์แวร์อย่าง Zinio ได้หมดลงนั้น ถูกใช้เป็น “ข้ออ้าง” อย่างดีในการปิดตัวธุรกิจ ก็ไม่แปลกครับ เพราะคงไม่มีผู้บริหารคนไหนมายอมรับต่อสาธารณะว่า โมเดลธุรกิจผิดพลาด!!
แต่เรื่องนี้ความจริงมันคิดกันได้ไม่ยากครับ
ผมมั่นใจว่าผมเป็นคนที่รักการอ่านมากๆ คนหนึ่ง .. ยังไม่เคยคิดจะไปลองใช้บริการจาก e-Book by True เลย หลังจากที่ได้เห็นโมเดลธุรกิจของทรู
ปัจจัยหลักๆ แห่งความล้มเหลว ผมให้น้ำหนักไว้ 2 ข้อ คือ
- การอ่านหนังสือหรือแมกาซีนผ่านหน้าคอมพิวเตอร์ เป็นเรื่องที่ไร้สาระสิ้นดีครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องเสียเงินซื้อ คิดแบบผ่านๆ เราจะได้เหตุผลของความไม่สะดวก คิดแบบลึกๆ อย่างน้อยซื้อเป็นเล่มกระดาษก็ยังจับต้องได้ แต่ซื้อและอ่านออนไลน์ เราได้อะไร? จะตัดฉีก จะทำคลิปปิ้ง จะเก็บสะสม มันลำบากไปหมด
- ราคาแมกาซีนที่ทรูตั้งไว้ มันเว่อร์ซะเหลือเกินครับ .. อย่าลืมว่าในเมื่อคุณไม่มีต้นทุนด้านกระดาษ ซึ่งเป็นต้นทุนหลักของหนังสือและนิตยสาร แล้วยังหาญกล้ายังไงมาตั้งราคาแบบสบประมาทคนซื้อเหลือเกิน เช่น นิตยสารเปรียว ราคาจริงอยู่ที่ 80 บาท แต่ราคาสุดพิเศษจากทรูอยู่ที่ 68 บาท??? หรือนิตยสารสารคดี ราคาจริงอยู่ที่ 120 บาท ราคาพิเศษจากทรูอยู่ที่ 90 บาท?? นิตยสาร Eworld ราคาจริงอยู่ที่ 75 บาท ราคาพิเศษจากทรูอยู่ที่ 56 บาท?
บอกได้เลยว่าตั้งราคากันแบบนี้ ใครเค้าจะไปอ่าน .. ผมไม่รู้ว่า ทำรีเสิร์ชกันมาก่อนรึเปล่าก่อนเปิดโปรเจ็กต์นี้ขึ้นมา และก็ไม่รู้ว่าคนที่ละโมภคือใคร? ทรู? หรือสำนักพิมพ์? หรือทั้งสองฝ่าย? ในเมื่อคุณขายนิตยสารแบบจับต้องไม่ได้ ต้นทุนผันแปรมันแทบเป็นศูนย์อยู่แล้วครับ เพราะทำครั้งเดียวจะก๊อปปี้ขายอีกกี่เล่มก็ไม่เสียเงินเพิ่ม
ลองไปดูเว็บไซต์ต้นแบบที่ Zinio.com .. เห็นราคาแล้วน่าซื้อหามาอ่านกว่ากันเยอะทีเดียว
* BusinessWeek ตกฉบับละ 19 บาท
* Cosmopolitan ตกฉบับละ 32 บาท
* ELLE ตกฉบับละ 32 บาท
* PC Magazine ตกฉบับละ 40 บาท
ยังไม่นับรวมนิตยสารอีกหลายเล่มที่ราคาไม่ถึง 20 บาท .. อย่างนี้ค่อยน่าสนใจหน่อย
ก็เข้าใจนะครับว่านิตยสารเมืองนอกถ้าสมัครสมาชิกรายปีมันก็ถูกกว่าเป็นธรรมดาอยู่แล้ว ส่วนนิตยสารเมืองไทยนั้น สมัครกันรายปี ก็จ่ายกันเท่าๆ เดิมไม่มีอะไรแตกต่าง ก็เลยเกิดเป็นปัญหาโลกแตกเรื่องราคาขึ้นมา แต่ถ้าจะเอาโมเดลนี้มาใช้กับเมืองไทย และต้องจ่ายค่าบริการกันแพงๆ อย่างนี้ ผมว่ามันน่าจะมองเห็นผลลัพธ์กันตั้งแต่ทำ feasibility test แล้วละครับ
ที่อยากชื่นชมทรูก็มีเพียงอยู่อย่างเดียวครับ คือ ความรับผิดชอบที่เหมาะสมสำหรับสมาชิกที่สมัครกันแบบรายปี โดยทางทรูยอมส่งแมกาซีนในรูปเล่มให้ถึงบ้านกันจนครบสัญญา ส่วนใครที่มีเงินเหลือในบัญชีก็จะคืนเงินผ่านธนาคารให้
แต่โทษนะครับ ทำไมต้องกำหนดว่าส่งเอกสารกันได้แค่ระหว่าง 1 เมษายน – 31 พฤษภาคม 2551 และจะคืนเงินให้ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2551 ??? จะรับผิดชอบแล้ว ก็รับผิดชอบให้มันเข้มข้นอีกนิดนึง ลูกค้ารายไหนไม่ได้เปิดหน้าเว็บ ก็โทรติดต่อแจ้งปัญหาให้ทราบกันแบบรายบุคคลเลยครับ แล้วจะน่านับถือมากกว่านี้!!
ช่ายครับ .. เห็นด้วยที่ราคาตั้งไว้สูงเกินไป .. ผมเคยโหลดมาอ่านตอนเปิดใหม่ ๆ ให้โหลดฟรีเล่มสองเล่มก็ไม่ค่อยประทับใจเท่าไรคับ สุดท้ายยอมเสียเงินซื้อหนังสือมาอ่านตอนไหนก็ได้ และชอบใจหน้าไหนก็ตัดมาเก็บไว้ .. ดีกว่าครับ
ปล. หลัง ๆ ชอบยืนอ่านฟรีที่ Se-Ed MBK มากกว่าครับ .. พวก FHM , Maxim เนี่ย .ง ถ้าเล่มไหนเนื้อหาดี นางแบบสวยคอ่ยซื้อมา ^_^
K. Beckham3:
อืม .. อ่าน FHM กะ Maxim เนี่ย .. นึกหน้าออกเลยนะครับ
ถ้าเป็นสองเล่มนี้ ผมไม่กล้าไปยืนอ่านตามแผงหนังสือครับ ..
กลัวทำหนังสือของเค้าช้ำ !!! 555