เปิดดูหัวข้อเรื่องที่อยากจะเล่าซึ่งจดเอาไว้แต่ไม่มีโอกาสซะที เห็นประเด็นนี้อีกครั้งก็เลยต้องรีบจับมาใส่บล็อกทันที
เหตุผลก็เพราะมีเพื่อนของผมเคยโดนกรณีนี้มาแล้ว
เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินตามข่าวหน้าหนังสือพิมพ์มาบ้าง แต่เพื่อนของผมนั้นโดนตั้งแต่ยังไม่เป็นข่าว ดีที่ว่าผมพอจะรู้จักกับคนที่รู้จักกับตำรวจระดับสูงถึงตามเรื่องจนได้เงินคืนไม่ยากนัก แม้ไม่ครบก็ตาม
เรื่องของเรื่องส่วนใหญ่ก็อย่างที่หลายคนทราบกัน โจรพวกนี้จะมาในแนวว่า “คุณถูกรางวัล” “คุณได้รับรถยนต์ โทรศัพท์มือถือ ฯลฯ” และมีตัวเลือกให้เปลี่ยนของกำนัลเป็นเงินสดได้ แต่ต้องไปทำรายการที่ตู้เอทีเอ็ม
พอไปถึงก็อาจใช้วิธีให้กดเข้าเมนูภาษาอังกฤษสำหรับหลอกคนที่อ่านภาษาอังกฤษไม่ออก หรือไม่ก็ให้กดแป้นตามโดยบอกว่า ต้องทำตามให้เร็วที่สุดภายในกี่วินาทีต่อปุ่ม ไม่งั้นจะเสียสิทธิ์ แล้วใช้วิธีบอกให้กดปุ่มตามตำแหน่งแป้น เช่น ปุ่มที่สองจากซ้ายมือ ปุ่มที่หนึ่งแถวที่สาม เป็นต้น
กว่าจะรู้ตัวก็โดนหลอกให้โอนเงินไปจนแทบเกลี้ยงบัญชีซะแล้ว ..
ความละโมภของคนเป็นต้นเหตุของปัญหานี้อย่างปฏิเสธไม่ได้ครับ แต่ก็ไม่อยากจะซ้ำเติมใคร เพราะมองเผินๆ พวกนี้ใช้คำพูดแนวจิตวิทยาที่ถ้าใครใจไม่แข็ง ก็ตกเป็นเหยื่อได้ง่าย เช่น ถ้าไม่รับสิทธิ์ตอนนี้ก็จะเสียสิทธิ์ทันที เราเป็นบริษัทใหญ่ (อ้างชื่อบริษัท) จะไปโกงทำไม ฯลฯ แถมมีเบอร์ให้โทรกลับไปตรวจสอบได้ และเข้าระบบอัตโนมัติเหมือนกับบริษัทจริงๆ อีกต่างหาก
แก๊งที่หลอกขโมยเงินเพื่อนผมไป ผมอาศัยเพื่อนที่ทำงานที่ธนาคารช่วยตรวจสอบหมายเลขบัญชีปลายทาง เจอออกมาว่าอยู่แถวบางแค และแจ้งว่าทำงานเป็น รปภ. ที่เดอะมอลล์บางแค และหลังจากนั้นเมื่อตำรวจตามจับได้ก็ใช่จริงๆ .. แสดงว่าโจรกลุ่มนี้ไม่ค่อยมืออาชีพเท่าไร เพราะดันเปิดบัญชีในชื่อเพื่อนของตัวเองที่เป็นคนใกล้ตัว
แต่สิ่งที่ผมเพิ่งจะทราบจากมติชนสุดสัปดาห์เมื่อราวเดือนกว่าๆ ที่ผ่านมาก็คือ มีแก๊งโจรประเภทนี้ใช้เมืองซัวเถาในประเทศจีน โทรข้ามประเทศมาหลอกคนไทยถึงถิ่นสยาม กวาดเงินไปได้กว่า 1,000 ล้านบาท ท้ายสุดตำรวจบ้านเรากับตำรวจของจีนก็ประสานกันจนทลายลงได้หนึ่งแก๊ง แต่ได้เงินคืนรึเปล่าอันนี้ไม่ทราบ
พวกนี้จะมีชาวจีนเป็นตัวแทนในประเทศไทย หลอกให้คนไทยมาเปิดบัญชีด้วยค่าจ้าง 800-1,500 บาท (พวกนี้ก็อีกหนึ่งกลุ่มที่โลภมาก) เพื่อใช้สำหรับหลอกให้คนโอนเงินเข้ามา เมื่อใช้ได้ซักพักก็จะปิดบัญชีทิ้งไป
ตำรวจไทยตรวจสอบพบว่าต้นทางของโทรศัพท์ที่โทรมานั้น มาจากซัวเถา กว้างตุ้ง ประเทศจีน ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ซึ่งพอทางตำรวจจีนตรวจพบแหล่งกบดานก็เจอพนักงานนับร้อยคยอนั่งโทรศัพท์หลอกเงินเหยื่อไม่เฉพาะในเมืองไทย แต่โดนกันทั้งเกาหลีใต้ ไต้หวัน มาเลเซีย ฯลฯ แน่นอนว่าที่คอลเซ็นเตอร์แห่งนี้มีพนักงานเป็นคนไทยด้วย จับมาได้ทั้งสิ้น 42 คน (น่าตบกะโหลกซักคนละ 42 ที โทษฐานช่วยคนต่างชาติโกงคนไทย)
วิธีการที่คนร้ายใช้ก็คือ จะใช้วิธีโทรสุ่มเลขหมาย 081 กับ 089 เพราะทราบว่าเป็นคนที่มีโทรศัพท์มือถือในช่วงแรกๆ ในยุคที่มือถือยังมีราคาแพง จึงเชื่อได้ว่าน่าจะเป็นคนมีเงิน .. ของเพื่อนผมเป็นเบอร์ 081 ที่โดนต้มไป
ที่สำคัญยังมีบริษัททัวร์เมืองไทยอีกสองแห่งที่ทำหน้าที่เป็นนายหน้าพาคนไทยไปทำงานกับแก๊งนี้ และอีกแห่งรับหน้าที่ขนเงินที่ได้ส่งกลับมาประเทศ เสียดายที่ไม่เปิดเผยชื่อบริษัททัวร์ ไม่งั้นจะช่วยโพสต์กันให้แบบกระจายๆ
ผมเองก็เคยโดนสองครั้ง ครั้งที่สองไม่มีเวลาคุยด้วย ก็เลยตัดสายทิ้งไป ส่วนครั้งแรกตอนนั้นว่าง พอบอกมาว่าผมถูกรางวัลจากบริษัทมือถือชื่อดัง (ทั้งที่ผมไม่เคยส่งอะไรชิงโชค) ผมก็เล่นด้วยทันที รีบติดต่อกลับบอกว่าอยู่หน้าตู้เอทีเอ็มแล้ว เค้าบอกอะไรมาผมก็แสร้งทำหมด แต่จริงๆ ยังนอนเล่นอยู่บนเตียง ท้ายสุดพวกนั้นนึกว่าได้เงินไปห้าหมื่นกว่าบาทก็วางสายไป
อีกสิบนาทีโทรมา .. ดันหลุดมาว่า คุณยังไม่ได้โอนเงินเข้ามานี่นา??
อ้าว..เผยไต๋ซะงั้น ผมก็เลยด่าไปทางโทรศัพท์ดังๆ หนึ่งครั้งด้วยคำศัพท์ที่สมควรถูกเซ็นเซอร์ แล้วก็ขู่ด้วยว่า ที่ท่านๆ โทรมาเมื่อกี้ผมอัดเสียงไว้แล้ว และจะไปแจ้งตำรวจ (แต่ไม่ได้ไปจริงหรอกครับ)
ช่วงหลังไม่ค่อยเจอแล้วโทรศัพท์หลอกลวงแบบนี้
แต่สำหรับพวกที่โทรมาบอกว่า แจ้งสิทธิ์สุดแสนจะพิเศษ ขายประกัน สมัครสินเชื่อ สมัครบัตรเครดิต ขายฟิตเนส ฯลฯ ผมยังประสบกรรมอยู่ทุกวัน ไม่หมดไปซะที
ก็ได้แต่บอกไปอย่างสุภาพว่า “พี่น้องครับ .. ผมตกงาน ไม่มีตังก์”
แล้วปลายทางก็วางสายไปอย่างไม่มีเยื่อใย
อ้างอิง: มติชนสุดสัปดาห์ วันที่ 11-17 เมษายน 2551 (คอลัมภ์ “อาชญากรรม”)
Leave a reply